ยายอ้วนเจ้าเสน่ห์ ตอน 4 ปฏิบัติการช้างยิ้ม

PS: ขอแจ้งให้ทราบทั่วกันค่ะว่ายายอ้วนเจ้าเสน่ห์ดัพเดททุกวันศุกร์

ปราณชั่งใจด้วยการมองโทรศัพท์นานเกือบสิบนาทีแล้ว

บุษราเป็นคนหาเบอร์โทรศัพท์มือถือของมัสลินมาให้หลายวันแล้ว แม้มารดาจะไม่ได้บอกให้โทรศัพท์ไปถามไถ่อาการของมัสลิน แต่จิตสำนึกฝ่ายดีของเขาบอกว่าควรแสดงความมีน้ำใจและความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามัสลินฆ่าตัวตายเพราะท่าทางผะอืดผะอมกับคนอ้วนของเขา เขาควรไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลด้วยซ้ำ แต่รู้ดีว่าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะเมื่อเห็นหน้าเธอเขาอาจวิ่งเตลิดเข้าห้องน้ำ และทำให้เธอฆ่าตัวตายซ้ำสองขึ้นมาได้

ในที่สุดชายหนุ่มก็ตัดสินใจกดโทรศัพท์ ขณะรออีกฝ่ายรับสาย เขาสูดลมหายใจเข้าออกยาวๆ เพื่อเรียกสติสัมปชัญญะ

เสียงของเธออาจทำให้คนช่างจินตนาการอย่างเขาคิดไปไกล

ความช่างจินตนาการทำให้เขาวาดภาพการใช้ชีวิตคู่กับมัสลิน เห็นภาพมัสลินใส่ชุดนอนกระโปรงลายหมีน้อยนอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ เธอนอนดิ้นกางแขนกางขาเหลือพื้นที่ให้เขานอนตัวลีบที่ขอบเตียง

จินตนาการนี้ชัดเจนและฝังใจถึงขั้นทำให้เขาเก็บไปนอนฝันร้ายสะดุ้งตื่นกลางดึกเลยทีเดียว

“สวัสดีค่ะ ป่านพูดค่ะ”

“สวัสดีครับป่าน ผมปราณครับ” เขาปรับเสียงให้นุ่มนวลกว่าปกติ

ปลายสายนิ่งเงียบไปนานจนเขาคิดว่าเธอวางสายไปแล้ว

“โทร.มาทำไม?” ถามเสียงขุ่น

มือที่ถือโทรศัพท์เริ่มเกร็ง ปราณเผลอนึกถึงร่างกายใหญ่โตในชุดกึ่งเดินป่ากึ่งทหารและดวงตาคมกริบเอาเรื่อง ภาพนี้มีอิทธิพลมากพอที่ทำให้ลมหายใจเข้าออกยาวๆ ที่เขาพยายามหล่อเลี้ยงให้คงจังหวะสม่ำเสมอมาหลายนาทีเปลี่ยนไป

เขาร้องบอกตัวเองให้นึกถึงดอกไม้ สีขาวช่องามน่าทะนุถนอม

เทคนิคนี้ใช้ได้ผล!

ลมหายใจเริ่มกลับสู่จังหวะปกติ

“คุณสบายดีนะครับ”

“คิดว่าคนที่เจอเรื่องอย่างฉันจะสบายดีรึไง?” น้ำเสียงยังเข้มข้นไม่เป็นมิตร

“ผมไม่คิดว่าเรื่องมันจะแย่อย่างนี้ ผมไม่คิดว่าคุณจะ…คิดสั้น”

“อะไรนะ!? คิดสั้นหรือ? นายหมายความว่าอย่างไง?”
 
ปราณเลื่อนโทรศัพท์ออกห่างหู เขาหลีกเลี่ยงคำว่าฆ่าตัวตายเพื่อไม่ให้เธอสะเทือนใจ แต่เธอกลับตวาดแหวจนแสบแก้วหู
 
ชายหนุ่มรู้สึกมือเท้าเย็นเมื่อคิดไปไกลว่า เขาต้องใช้ชีวิตคู่อยู่กับหญิงอ้วนเจ้าอารมณ์อย่างมัสลินไปตลอดชีวิต

ชีวิตที่สงบสุขพลิกผันชั่วพริบตา…เหมือนตกนรก

ปราณเผลอระบายลมหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว

มัสลินทำเสียงขึ้นจมูก

“จะบอกให้นะว่าคนที่คิดสั้นคือแม่คุณไม่ใช่ฉัน อาปิ่นบังคับพ่อฉัน บังคับให้ฉันลดความอ้วน เรื่องแบบนี้คนดีๆ มีคุณธรรมเขาไม่ทำกันหรอก”

“นี่ป่าน!” ปราณลืมตัวขึ้นเสียงขึ้นมาบ้าง

เขาโกรธที่มัสลินบิดเบือนข้อเท็จจริงและโยนความผิดทั้งหมดมาให้ฝ่ายเขา

“ใครกันแน่ที่บังคับให้เราแต่งงานกัน พ่อคุณน่ะแหละบีบแม่ผม ทั้งๆ ที่รู้ว่าผมแพ้คนอ้วนก็ไม่ยอมเลิกรา รู้มั้ยว่าพ่อคุณแอบส่งนักสืบไปติดตามผมด้วย”

“นักสืบอะไร? อย่ามาหาเรื่องพ่อฉันนะ” หญิงสาวตะเบ็งเสียงตอบโต้

“อ้าว! ก็ผู้ชายกล้ามใหญ่หน้าเนียนเหมือนกระเทยนั่นไง”
“นี่! ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงใคร แต่อย่าคิดว่าชาวบ้านเขาเป็นกระเทยเหมือนนายไปเสียหมด”

“อะไรนะ! นี่คุณหาว่าผมเป็นกระเทยงั้นหรือ?”

เสียงหัวเราะหยันดังมาตามสาย

มัสลินคิดว่าปราณเป็นคนขี้ขลาดที่สุดในโลก ไม่กล้าเจอกันซึ่งหน้า ยังอุตส่าห์โทรศัพท์มาหาเรื่อง

“ฟังนะนายปราณ” ขานชื่ออย่างชัดถ้อยชัดคำ “ฉันไม่เคยคิดแต่งงานกับนาย” พูดทีละคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นราวกับกลัวเขาฟังไม่ถนัด

“แล้วใครล่ะที่เสียอกเสียใจจนฆ่าตัวตาย แล้วพ่อใครล่ะที่วิ่งโร่มาข่มขู่แม่ผมถึงบริษัท ใครล่ะที่บังคับให้ผมไปหาจิตแพทย์น่ะ”

“นายพูดบ้าอะไร!?” มัสลินโวยลั่น เมื่อที่ถือโทรศัพท์สั่นเทา เธอโกรธจัดกัดฟันจนรู้สึกปวดกราม รับรองว่าถ้าเขาอยู่ตรงหน้า เธอจะปาโทรศัพท์ใส่หน้าให้หน้าแตกเลยทีเดียว โทษฐานที่กล่าวหาว่าเธอฆ่าตัวตาย และพ่อเธอคิดสั้น หวังตะครุบผู้ชายงี่เง่าขี้โรคแอบจิตอย่างเขา

คำพูดหลงตัวเองของเขาทำให้เธอร้องยี้ในใจ

“คนอย่างฉันไม่มีวันฆ่าตัวตายเพราะผู้ชายโรคจิตอย่างนายหรอก”

“แล้วใครกันที่กินยานอนหลับสี่สิบเม็ดน่ะ” ปราณโต้ตอบอย่างเหลืออด

“นายปราณ!” นึกไม่ถึงว่าปราณจะกล้าแต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ ถึงขนาดให้รายละเอียดได้ว่าเธอกินยานอนหลับถึงสี่สิบเม็ด
อีกฝ่ายนิ่งเงียบไปนานจนปราณเริ่มรู้สึกผิด คิดว่าพูดจากระทบใจเธอเข้า

เขาโทรศัพท์มาเพื่อขอโทษเธอ ไม่ใช่ทำให้เธอโกรธยิ่งขึ้นไม่ใช่หรือ

“ผมขอโทษนะป่าน…”
 
“ฟังนะนายปราณ…” ในที่สุดมัสลินก็บังคับตัวเองให้ส่งเสียงพูดที่สั่นเทาเพราะความโกรธออกมา “ถ้าพูดว่าฉันฆ่าตัวตายอีกครั้งเดียว ฉันจะพุ่งไปหานายที่บ้านภายในห้านาที ไม่ใช่แค่ไปให้เห็นหน้า ฉันจะเอาตัวอ้วนๆ ที่นายกลัวจนอ้วกแตกทับจนหายใจไม่ออกเลย…ไม่เชื่อก็ลองดูสิ!” แม้เสียงจะดังก้องจนหูอื้อ แต่ปราณยังถือโทรศัพท์ค้าง ตกตะลึงกับคำขู่ที่นึกภาพตามแล้วแล้วขนลุกซู่หายใจขัดตัวเกร็งขึ้นมาทันที

“จำไว้นะว่า คนอย่างฉัน ถ้าอยากแต่งงาน จะหาผู้ชายด้วยตัวเอง ไม่เหมือนนาย หาผู้หญิงแต่งงานเองไม่ได้ อ้อ…ไม่ใช่สินะ ไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิง อาปิ่นเลยต้องใช้วิธีบังคับขายเพราะกลัวขายหน้าชาวบ้านว่าลูกชายเป็นเกย์ น่าภูมิใจนักรึไง?”

“แล้วคุณน่ะสวยเปอร์เฟคนักรึไง? อ้วนเหมือนฮิปโป พูดจาโฮกฮากแบบนี้คงหาผู้ชายมาแต่งงานด้วยตัวเองได้หรอกนะ ลุงนนท์คงรู้จักลูกสาวตัวเองดี เลยมาขู่แม่ผม”

“นายเกย์โรคจิต!”

“ยายอ้วน!”
มัสลินเดินกระแทกเท้าตึงๆ ไปหาผู้เป็นพ่อ เม้มปากแน่นเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อนั่งไขว่ห้างเอนกายพิงพนักโซฟาหนานุ่มท่าทางสบายอารมณ์ เขากำลังโทรศัพท์ รอยยิ้มเต็มใบหน้าเหมือนหนุ่มน้อยโทรศัพท์จีบสาว เมื่อหันมาเห็นเธอ เขานั่งตัวตรงอัตโนมัติ เมื่อเธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาวางสายไปแล้ว ปรับสีหน้าเคร่งขรึมแตกต่างลิบลับกับท่าทางที่เห็นเมื่อครู่

มัสลินกระแทกตัวลงนั่งที่โซฟาตรงข้ามจนที่นั่งไหวยวบ จ้องหน้าผู้เป็นพ่ออย่างเอาเรื่อง

“พ่อกำลังเล่นอะไรอยู่?” ถามไร้หางเสียง

มาลินีซึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้โยกอีกมุมหนึ่งของห้องมองลอดแว่น เธอวางหนังสือแล้วเดินเข้ามาร่วมสมทบ โดยไม่สนใจสายตาต่อต้านของลูกชาย

“คุยกับเพื่อนจ้ะ” นนท์ตอบยิ้มๆ ขณะที่ลูกสาวทำเสียงขึ้นจมูกแสดงความหงุดหงิดเต็มที่ พ่อแสร้งพูดเรื่องโทรศัพท์ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอต้องการพูดเรื่องอื่น

มาลินีซึ่งเดินมานั่งข้างหลานสาวก็พลอยส่งค้อนให้ลูกชายไปด้วย ทั้งๆ ที่ไม่รู้ที่มาที่ไป

“สงสัยพ่อเขาจะมีแม่ใหม่ให้เราแล้วหละป่าน เห็นคุยโทรศัพท์หัวเราะคิกคักเหมือนหนุ่มน้อย นี่คงอยากรีบจำหน่ายจ่ายแจกยายป่านไปให้พ้น ๆ จะได้พาผู้หญิงมาอยู่บ้านใช่มั้ย?” ตอนท้ายหันไปไล่เบี้ยกับลูกชาย

“แม่ก็พูดไปเรื่อย ผู้หญิงที่ไหนกันล่ะครับ”

“ก็ผู้หญิงที่เธอคุยโทรศัพท์เช้ากลางวันเย็นน่ะสิยะ ที่เร่งๆ จะให้ป่านแต่งงานก็เพราะตัวเองจะได้หาเมียใหม่งั้นสิ”

นนท์ตกใจ ไม่คิดว่าผู้เป็นแม่จะลอบสังเกตพฤติกรรมโดยที่เขาไม่รู้ตัว

หญิงสาวเม้มปากและกำมือแน่นจ้องหน้าผู้เป็นพ่อตาเขม็ง นึกไม่ถึงว่าพ่อจะเอาแผนการมีแม่ใหม่ไปเกี่ยวโยงกับการแต่งงานของเธอกับปราณ

“พ่อจะแต่งงานก็แต่งไปสิ ไม่ต้องจับป่านไปแต่งงานกับคนอื่นด้วยหรอก พ่อกำลังทำให้ป่านตกนรกที่จับป่านไปแต่งงานกับนายปราณขี้โรคแอบจิตนั่น!” หญิงสาวตะเบ็งเสียงดังและเข้มข้น เพราะความรู้สึกโกรธแค้นที่มีต่อปราณพุ่งพรวดขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

“ป่าน…” นนท์เอื้อมมือไปจับมือลูกสาวอย่างนุ่มนวลหมายจะปลอบโยน แต่ลูกสาวดึงกลับอย่างกระแทกกระทั้นและแสนงอน

“พ่อทำเกินไปแล้วนะ! ถึงขั้นไปบอกนายปราณว่าป่านฆ่าตัวตายกินยานอนหลับสี่สิบเม็ด”

“ฮ้า!” มาลินีร้องเสียงหลง หันขวับไปจ้องหน้าลูกชายอย่างนึกไม่ถึง
นนท์หลบตาวูบ

จากประสบการณ์ของผู้เป็นแม่ทำให้มาลินีรู้ว่านนท์ทำจริงตามข้อกล่าวหา เพราะนนท์มักไม่กล้าสู้หน้าเวลาทำผิดแล้วถูกจับได้

“เธอทำอย่างนี้กับลูกได้อย่างไงฮะนนท์?” มาลินีขึ้นเสียงราวกับลูกชายเป็นเด็กเล็กๆ และเกือบจะเอื้อมมือไปหยิกแขน

มัสลินเม้มปากแน่นน้ำตาซึมด้วยความโกรธผสมน้อยใจ

“พ่อทำให้นายนั่นสมเพชป่าน” หญิงสาวพูดเสียงสั่น น้ำตาใกล้เล็ดเต็มที

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะป่าน ฟังพ่อก่อน นี่พ่อทำเพื่อแก้แค้นให้ป่านนะ พ่อแค่อยากให้อาปิ่นกับนายปราณรู้สึกผิดที่มาทำอย่างนี้กับเรา ต่อให้ลูกพ่ออ้วนแค่ไหน เขาก็ไม่มีสิทธิมาแหวะใส่…” ในตอนหลังนนท์ใส่อารมณ์ทั้งน้ำเสียงและท่าทางราวกับปิ่นมณีและปราณมาอยู่ตรงหน้า

สองย่าหลานนิ่งงันและจ้องหน้าเขาตาเขม็ง

“มันได้ผลนะลูก” นนท์ชะโงกตัวเข้าไปพูดตาเป็นประกายน้ำเสียงกระตือรือร้น “นายปราณกินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายมื้อ”

“ฮึ” หญิงสาวทำเสียงขึ้นจมูก

“กินไม่ได้นอนไม่หลับประสาอะไร พ่อรู้มั้ยว่าเขาเพิ่งโทรมาเยาะเย้ยป่าน หาว่าป่านกินยานอนหลับไปตั้งสี่สิบเม็ด เพราะเสียใจที่เขาไม่ยอมแต่งงานด้วย เขาตะโกนใส่หูป่านว่ายายอ้วนดังจนหูแทบแตก แบบนี้น่ะหรือที่รู้สึกผิด กินไม่ได้นอนไม่หลับ?”

“ต๊าย! ทำอย่างงี้กับหลานฉันได้อย่างไง” มาลินีฟาดมือกับเบาะโซฟาทำตาวาวอย่างเจ็บใจ

“ปราณทำถึงขนาดนี้เชียวหรือลูก” นนท์พลอยใส่อารมณ์ไปด้วย

“พ่อจะโทรไปหาอาปิ่นเดี๋ยวนี้เลย บอกว่าลูกชายเขาไร้มารยาทมาก เป็นอันว่าข้อตกลงของเราสิ้นสุด!”

“เอาเลยนนท์ บอกให้เขารู้ไปเลยว่าฝ่ายเราไม่ได้อยากแต่งงานกับเขานักหรอก” มาลินีเชียร์เต็มที่ มัสลินพยักหน้าหงึกๆ กระตุ้นอีกทาง

จากนั้นสองย่าหลานก็นั่งจ้องรอให้เขาหยิบโทรศัพท์ แต่นนท์กลับมองโทรศัพท์แล้วเหลือบมองมารดาและลูกสาวสีหน้าท่าทางลำบากใจ เมื่อผู้เป็นแม่พยักเพยิดไปที่โทรศัพท์ เขากลับถอนหายใจเฮือกใหญ่ท่าทางหนักใจ

“ใจเย็นๆ ก่อนสิครับแม่” ลากเสียงพูดน้ำเสียงอ่อนลง

“ผมรู้ว่าแม่โกรธ ผมก็โกรธ แต่เราต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อน ไม่งั้นเราจะเสียเปรียบ ตอนนี้ผมขอเรียบเรียงความคิดและคำพูดก่อนนะครับ รับรองผมโทร.ไปต่อว่าปิ่นแน่”

คราวนี้ฝ่ายที่ระบายลมหายใจดังพรวดคือมัสลิน ในที่สุดพ่อเธอก็เห็นผลประโยชน์ด้านธุรกิจมาก่อนความรู้สึกของลูกสาวตัวเอง และยอมตกเป็นเบี้ยล่างทางธุรกิจของปิ่นมณีต่อไป โดยไม่สนใจเธอจะเผชิญกับผู้ชายนิสัยแย่ งี่เง่า ขี้โรค ปากร้ายอย่างนายปราณได้อย่างไร

มัสลินยังไม่ไม่เข้าใจมาจนถึงทุกวันนี้ว่าพ่อทำไมจู่ๆ ธุรกิจที่พ่อเคยภาคภูมิใจหนักหนาว่ามั่นคงจึงสั่นคลอนขึ้นมาได้ ทำไมพ่อต้องเอาชีวิตของคนในครอบครัวไปผูกพันกับธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับคนอื่น และแม้เธอจะยืนยันว่า เธอสามารถยืนบนลำแข้งตัวเองได้ในฐานะโปรแกรมเมอร์อิสระ ซึ่งเป็นอาชีพที่ใช้สมองอย่างเดียว ความสวยและน้ำหนักไม่มีส่วนต่อคุณภาพงาน พ่อก็ยังยืนยันหัวชนฝาให้เธอแต่งงานกับปราณโดยไม่มีข้อแม้

หญิงสาวปักใจเชื่อว่าปิ่นมณีเป็นคนต้นคิดเรื่องนี้ หากมองในแง่ดีก็เพราะอยากรวมธุรกิจเข้าด้วยกันโดยไม่ใครได้เปรียบเสียเปรียบ เข้าตำราโบราณ “เรือล่มในหนองทองจะไปไหน” แต่หากมองในแง่ร้าย อาจเป็นเพราะปิ่นมณีมีลูกชายตัวผอมซีดเซียวขี้โรคปากเสียและแอบจิต แม่เขาเลยต้องใช้เงื่อนไขทางธุรกิจมาต่อรองกับพ่อเธอ

ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงเก่งฉลาดใจดีอย่างปิ่นมณีที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดอยากชวนมาเป็นแม่เลี้ยงจะกลายเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์ร้ายกาจเช่นนี้ไปได้
มัสลินนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดหน้าจอเตรียมเขียนโปรแกรมค้างไว้เกือบครึ่งชั่วโมงโดยยังไม่ได้พิมพ์งานสักตัว เธอไม่สามารถถอนตัวให้เลิกคิดถึงเสียงตะโกนคำว่า “ยายอ้วน!” ได้แม้แต่นาทีเดียว

แม้จะรู้ตัวว่าอ้วน แต่ไม่ต้องการการบอกเล่าหรือตอกย้ำจากใครๆ และไม่เคยมีใครพูดกรอกหูว่า “ยายอ้วน” จนหูแทบแตกเช่นนี้มาก่อนเลย

“ต้องเอาคืนให้สาสม” หญิงสาวบอกตัวเองเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน พลางคิดหาหนทางอย่างหนัก แต่สุดท้ายก็ได้แต่ทำเสียงฮึดอัด เดินไปมาอย่างหงุดหงิด โกรธตัวเองที่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก

เธอเดินกลับมานั่งหน้าจอ พยายามบังคับตัวเองให้ทำงาน แต่สุดท้ายได้แต่นั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์ที่มีภาพกราฟฟิกรูปช้างน้อยผูกโบว์สีชมพูหลิ่วตาและส่งยิ้มทะเล้น

ภาพช้างน้อยสีชมพูจุดประกายความคิดให้เจิดจ้า ใบหน้าที่บึ้งตึงเริ่มคลี่คลายกลายเป็นรอยยิ้มเต็มใบหน้า

หญิงสาวตบมือกับโต๊ะเสียงดัง

อา…ในที่สุดช้างน้อยสีชมพูของเธอก็กระซิบบอกวิธีการแก้แค้นที่แสนสะใจให้แล้ว
 

แม้เรื่องการทำสงครามกับมัสลินจะไม่มีอยู่ในหัว ถึงขนาดต้องใช้ตำราพิชัยสงครามของซุนวูเข้ามาช่วยตามคำแนะนำของกิตติที่บอกว่า “แกต้องศึกษาวิธีคิดของคนอ้วนไว้บ้างนะโว้ย จะได้รู้ว่ายายป่านคิดอย่างไง รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” แต่การปะทะคารมกับมัสลินทางโทรศัพท์ทำให้ปราณต้องมานั่งท่องเว็บไซต์คนอ้วนด้วยความแค้นคุกรุ่น

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมมัสลินจึงปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยฆ่าตัวตาย ทั้งๆ ที่พ่อเธอเป็นคนแจ้งข่าวนี้กับมารดาของเขาเอง พอเขาโทรศัพท์ไปแสดงความเห็นใจเธอกลับตะโกนใส่หูว่าเขาเป็นโรคจิตเสียอีก

ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกินที่จู่ๆ ก็มีข้อความปรากฎในมือถือเขาว่า “เว็บบล็อกช้างยิ้ม อ้วนก็ต้องอ่าน ไม่อ้วนก็ต้องอ่าน”

ปราณเข้าไปดูเว็บบล็อกช้างยิ้มแล้วอมยิ้มกับสโลแกนของเว็บบล็อก “ชุมชนคนอ้วนที่มองโลกเชิงบวก”

เขาชอบดีไซน์ของเว็บบล็อกนี้ตรงที่ใช้สีสดใสสบายตาจัดแบ่งเรื่องราวได้อย่างเป็นระเบียบและอ่านง่าย ไม่มีรูปภาพหรือการ์ตูนตกแต่งจนดูเปรอะเลอะเทอะเหมือนบล็อกวัยรุ่นส่วนใหญ่

เขากราดสายตาดูชื่อเรื่องคร่าวๆ แล้วนึกชื่นชมเจ้าของเว็บบล็อกที่อุตส่าห์สละเวลามาทำเว็บบล็อกที่เป็นประโยชน์สมกับเป็นเว็บบล็อกที่มีคนเข้ามาเยี่ยมชมนับแสนคน

สิ่งที่ทำให้เว็บบล็อกนี้แตกต่างจากเว็บบล็อกอื่นๆน่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความอ้วนในเชิงบวกสมกับชื่อบล็อกและสโลแกน

สายตาของปราณสะดุดกับเรื่องใหม่ที่เพิ่งอัพเดทเมื่อสิบนาทีที่ผ่านมาที่มีชื่อเรื่องสะดุดตาว่า “ยายอ้วนกับนายขี้โรคแอบจิต”

“เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ช้างยิ้มขอใช้นามสมมติเพื่อหลีกเลี่ยงผลทางกฎหมาย…

…กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้เอง มีชายผอมแห้งขี้โรคหน้าตาซีดเซียวคนหนึ่ง เขาใช้ชีวิตเปล่าเปลี่ยวจนย่างเข้าสู่วัยใกล้เลขสาม แต่ยังหาแฟนเป็นตัวเป็นตนไม่ได้

อยู่มาวันหนึ่งคุณแม่ผู้แสนดีพบว่าลูกชายเป็นพวกแอบจิต…

ตายแล้ว!…ขืนชาวบ้านรู้จะเอาหน้าสวยๆ ของแม่ไปไว้ที่ไหน!
คุณแม่หน้าบางจำต้องใช้กำลังภายในข่มขู่หุ้นส่วนธุรกิจ

…ฮึ่ม! ถ้าเธอไม่ยอมให้ลูกสาวเธอมาแต่งงานกับลูกชายฉัน ฉันจะบีบเธอจนหน้าเขียว…

ในที่สุดนักธุรกิจกับลูกสาวผู้น่าสงสารจำต้องยอมจำนน

แล้วก็มาถึงวันที่เจ้าชายขี้โรคประสบพักตร์กับว่าที่เจ้าสาว… เหยื่อที่น่าสงสาร…

เธอเป็นหญิงอ้วนน้ำหนักเกือบร้อยกิโล

เขาตกใจแทบช็อคเพราะโรคเก่ารุมเร้า (อาจเป็นเอดส์หรือมะเร็งระยะสุดท้าย) ผสมกับอาการขวัญอ่อนตามประสาชายผู้นะฮ้าจิตอ่อน
เจ้าหนุ่มขี้โรคแอบจิตมือไม้อ่อน กลัวทั้งผู้หญิงและคนอ้วนจน เป็นลมล้มพับทั้งๆ ที่ยังไม่ได้คุยกับสาวเจ้าสักคำ
 
เขากลับไปฟ้องแม่ คุณแม่แสนดีสั่งสาวเจ้าให้ลดความอ้วนให้ได้ยี่สิบกิโล!

คุณคิดอย่างไงกับผู้ชายคนนี้?”

หมายเหตุ :หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อเป็นคือเพื่อนช้างยิ้มของเรานี่เอง

รอยยิ้มที่ปรากฎก่อนอ่านเรื่องราวค่อยๆ จางหายเมื่ออ่านจบ และกลายเป็นบึ้งตึงในที่สุด

นี่มันเรื่องของเขาชัดๆ!

ความเห็นที่ 1…“ผู้ชายงี่เง่า”

ความเห็นที่ 2…“คนอ้วนนะยะ…ไม่ใช่ผี”

ความเห็นที่ 3…“ทำไมแกไม่ไปอยู่กับพวก “นะฮ้า” ล่ะยะ มาลากเพื่อนฉันไปตกนรกด้วยทำไม

ความเห็นที่ 4…“ญาติพี่น้องแกไม่อ้วนมั่งให้มันรู้ไป”

ความเห็นที่ 5… “ไอ้ปัญญาอ่อนเอ๊ย กลับไปดูดนมแม่เถอะไป๊”

ความเห็นที่ 6…”ไปหาของที่ชอบๆ เถอะไป๊”

ปราณอ่านความเห็นต่อๆ มาด้วยอาการตาลาย

มือที่สั่นเทาด้วยความโกรธของเขาดึงเมาส์เลื่อนไปที่ความเห็นสุดท้ายซึ่งเป็นความเห็นที่เก้าสิบเอ็ดเขียนว่า “สัพเพสัตตา อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย”

ปราณฉุกคิดถึงข้อความในโทรศัพท์มือถือแล้วเริ่มเกิดอาการกลัวจนเสียวหลังวูบ มีคนบางคนกำลังเล่นเกมเขย่าขวัญ

เขาเหลือบตามองเวลาที่โพสต์เรื่องกับเวลาที่ข้อความในมือถือปรากฎพบว่าเป็นเวลาเดียวกัน

นึกทบทวนว่ามีใครบ้างที่รู้เรื่องเขากับมัสลินอย่างละเอียดเช่นนี้ เขาเริ่มกระจ่างกับตัวเองว่า คนที่อยู่หลังเรื่องนี้จะเป็นใครไปไม่ได้

ยายอ้วนมัสลินตัวแสบ!

ปราณลนลานคว้าโทรศัพท์ กดค้นหาเบอร์ของมัสลิน

เขาเพิ่งรู้ถึงความรู้สึกที่ว่า “โกรธจนมือสั่น” วันนี้นี่เอง

มัสลินช่างร้ายกาจนัก ทะเลาะกับเขาไม่ถึงชั่วโมง ก็สามารถเอาเรื่องของเขาไปประจานในบล็อกคนอ้วน ทำให้เขาถูกด่าสาดเสียเทเสียถึงเก้าสิบเอ็ดความเห็นภายในเวลาสิบนาที

“คุณเอาเรื่องของผมไปลงบล็อกช้างยิ้มใช่มั้ย?” ปราณถามเสียงห้วนจัดทันทีที่มัสลินรับโทรศัพท์

หากมองเห็นภาพอีกด้านหนึ่ง ปราณคงเห็นมัสลินแสยะยิ้มอย่างสะใจ

“บล็อกอะไรนะชื่อแปลกๆ ? เรื่องอะไรหรือ?”

“ก็เรื่องยายอ้วยกับนายขี้โรคแอบจิตไงล่ะ!”

“โอ๊ะโอ…ชื่อน่าสนใจมาก เดี๋ยวๆ รอเปิดบล็อกแป๊บนึงนะ…โอ้โฮ… ดูความเห็นที่ล่าสุดสิ อย่างนี้ต้องเอาคืน ทำให้เจ็บเป็นร้อยเท่า อย่าให้ไอ้ขี้โรคมาดูถูกเพื่อนช้างยิ้มของเรานะจ๊ะ ว้าวๆๆ” หญิงสาวลอยหน้าลอยตาใส่อารมณ์อ่านข้อความแล้วตบโต๊ะเสียงดังเป็นจังหวะเดียวกับเสียงอุทาน ตามด้วยหัวเราะเสียงกวนอารมณ์ปราณเหลือบมองหน้าจอคอมพิวเตอร์พบข้อความที่เธออ่านให้ฟังพอดี

ให้ตายสิ!ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีคนเข้ามาแสดงความเห็นครบร้อยความเห็นทั้งๆ ที่เพิ่งโพสต์เข้ามาแค่สิบเอ็ดนาที

“ป่าน!” ชายหนุ่มเรียกชื่อเธอเสียงเข้ม “คุณเล่นแรงเกินไปแล้วนะ!”

“ฉันไม่เกี่ยวนะ พอคุณว่าฉันเป็นยายอ้วน ฉันก็โทรศัพท์ไปเล่าให้เพื่อนฟัง มันเข้าไปอยู่ในบล็อกได้อย่างไงก็ไม่รู้ ขอโทษด้วยนะ” มัสลินพูดขณะกลั้นหัวเราะเต็มกำลัง ดังนั้นคำขอโทษของเธอจึงฟังดูไม่จริงใจเอาเสียเลย

“อย่าไปสนใจเลยน่า ไม่มีใครรู้หรอกว่านายขี้โรคแอบจิตน่ะคือคุณปราณ ลูกชายเจ้าของโรงงานเพชรปิ่นมณี”

ปราณกัดฟันกรอดๆ เขารู้ธรรมชาติของกระทู้ลักษณะนี้ดี อีกหน่อยก็จะมีคนมือดี ซึ่งอาจจะเป็นพรรคพวกคนเขียนเข้าไปแสดงความเห็นเฉลยว่าใครเป็นใคร เหมือนที่มักเกิดขึ้นกับกระทู้นินทาดารา

“ถ้ามีชื่อผมกับแม่ผมขึ้นบล็อก ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่”

“เหรอ…น่ากลัวจัง”หญิงสาวลากเสียงยาวยั่วโทสะ

“คราวนี้รู้รึยังชาวบ้านเขาคิดอย่างไงกับผู้ชายขี้โรคปากร้ายแอบจิตอย่างคุณ ถ้ายังไม่เลิกปากเสีย ยังไม่เลิกเอาเรื่องฉันไปนินทากับแฟน จะเจอหนักกว่านี้ แค่นี้นะ จะเข้าไปดูความเห็นที่ร้อยเอ็ดซักสักหน่อย กู้ดไนท์” มัสลินกล่าวอำลาพร้อมกับส่งเสียงจูบไปตามสายปิดท้ายด้วยเสียงหัวเราะเริงร่าที่เสียดหูแทงใจปราณจนเขาต้องระเบิดเสียงระบายอารมณ์เสียงลั่น
เขาเหลือบตามองความเห็นที่หนึ่งร้อยเอ็ด แล้วขบกรามแน่น

“มันผู้ใดทำร้ายคนอ้วน มันผู้นั้นเป็นศัตรูกับพวกเราเหล่าช้างยิ้ม…พวกเราบุก!” ช้างยิ้มนัมเบอร์วัน

ปราณรีบปิดบล็อกก่อนความเห็นที่หนึ่งร้อยสองจะโผล่ขึ้นมา

เขาเดินงุ่นง่านไปรอบๆ ห้อง คิดหาทางเอาคืน แต่แทนที่จะคิดออก กลับคิดถึงหุ่นใหญ่โตในชุดทหารและประกายตาวาวๆ เหมือนนางเสือร้ายของเธอ ราวกับเธอส่งวิญญาณร้ายมาหลอกหลอน

ชายหนุ่มนั่งกุมขมับ ถอนหายใจเฮือกๆ

จิตแพทย์สักร้อยคนก็คงทำให้เขาเลิกกลัวยายอ้วนที่แสบสันต์และร้ายกาจอย่างมัสลินไม่ได้

9 Responses so far »

  1. 1

    kully said,

    สนุมากกกกกก เลยค่ะ

    ชอบเวลา ปราณเรียกว่า “ป่าน” ดูน่ารักดี (นี่ขนาดยังไม่รักกันนะนี่ 55)

    ลุ้น ลุ้น อยากให้เจอกัน (อีกครั้ง) เร็วๆจังเลย

    ติดตามอยู่นะคะ

    สู้ สู้

  2. 2

    Nitty said,

    ขอ Link เว็บบล็อกนี้หน่อยดิ
    จะได้สมัครเป็นสมาชิกด้วยคน อิ..อิ..

  3. 3

    chacreeya said,

    ด้วยความยินดีจ้ะ Nitty

  4. 4

    Jan said,

    ชอบจังเลย ตลกแบบไม่ไร้สาระ อยากอ่านต่อแบบยาวๆนะคะ

  5. 5

    กิ่งแก้ว said,

    อ่านเรื่องนี้แล้วสนุกดี ชอบนางเอกมากๆเลย

  6. 6

    วิภา said,

    แวะมาทักจ้า..

    จากยายอ้วน เจ้าสเน่ห์ กว่า อิอิ..
    จาก…ยายอ้วนกระโปรงสุ่มไก่..
    ป.ล. ใช้เบอร์มือถือเบอร์เดิม หรือป่าวอ่ะ เพื่อน..

  7. 8

    วิภา said,

    รับทราบจ้า….
    ซื้อหนังสือของตะเองไว้หลายเล่มแล้วน๊ะ
    เอามาแบ่งเพื่อนๆที่ทำงานอ่าน ทุกคนชอบหมดเลยอ่ะ..

  8. 9

    แหล่งซื้อ- ขายยานอนหลับ,
    โดมิคุมชนิดน้ำ, ยาปลุกเซ็กส์หญิง-ชาย, ยาเสียสาว แมลงวันสเปน, ทิงเจอร์ขาว, ยาสลบแบบพ่น-ดม, ยาป้าย,
    ป้ายสลบ, ป้ายมึนงง
    ให้คำแนะนำในการเลือกซื้อสินค้าอย่างฉลาด ปลอดภัย เมื่อใช้แล้วเห็นผลและตรงตามconceptที่ต้องการ


Comment RSS · TrackBack URI

ใส่ความเห็น